You are here:

รู้ทันทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง ปลายปี 62- ต้นปี 63

          มาถึงโค้งสุดท้ายของสุดท้ายสำหรับปี 2562 กันแล้ว แน่นอนว่าช่วงเวลาสิ้นปี เป็นช่วงเวลาแห่งการสรุปการเงินการลงทุนประจำปี รวมถึงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วย และก็เป็นช่วงเวลาที่จะมีการคาดการณ์แนวโน้มของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของปีหน้า ซึ่งก็คือปี 2563 เพื่อให้นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อหรือผ่อนบ้าน

          จากปี 2562 พบว่า อสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในช่วงครึ่งปีแรก เป็นทาวน์เฮ้าส์ชานเมืองโดยรอบกรุงเทพ และเมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็ยังได้รับการจับตามอง เพราะมีความผันผวนที่จะส่งผลต่อการซื้อบ้านและผ่อนบ้าน/mortgage เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจัยสำคัญเกิดจาก สภาพเศรษฐกิจ หนี้สินของแต่ละครัวเรือน และสถานการณ์ต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของไทยเป็นอย่างมาก หลายคนคงจะตามข่าวสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนซึ่งดำเนินมากว่าสองปี  เนื่องจากหลังจากประธานาธิบดี ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา เคลื่อนไหวและประกาศว่าจะไม่ปล่อยให้สหรัฐอเมริกาเสียดุลการค้าให้กับประเทศอื่นๆอีกต่อไป โดยเฉพาะประเทศจีน และเมื่อเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนขึ้น ก็ส่งผลต่อการลงทุนของอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยด้วย ทำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องก่อนตัดสินใจเตรียมตัวซื้อบ้านหรือ ผ่อนบ้าน/mortgage  รวมถึงก่อนตัดสินใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

          แต่ถึงแม้ว่ากำลังในการซื้อบ้านหรือผ่อนบ้านของคนไทยจะน้อยลง แต่ก็ได้นโยบายและโครงการของรัฐบาลช่วยส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรกเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มความสามารถในการซื้อขาย กระตุ้นการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเป็นนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านให้กับคนไทย อย่างเช่นต้นปี 63 ที่จะถึงนี้รัฐบาลก็ได้ออกนโยบายลกค่าโอนบ้านจาก 2% เหลือเพียง 0.01 เปอร์เซ็น ทำให้ค่าโอนบ้านหลักหมื่น เหลือเพียงหลักพักเท่านั้น บางโครงการบ้านจัดสรรจึงไม่คิดค่าโอนเสียเลย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อบ้าน ทั้งการผ่อนบ้านยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย ให้เกิดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น

 

ไม่เพียงเท่านั้นปลายปี 62 นี้รัฐบาลยังกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือที่อยู่อาศัยด้วยการช่วยเหลือเงินดาวน์ 50,000 บาท จำนวน 1 แสนยูนิต สำหรับผู้ที่รายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการซื้อบ้านให้เกิดขึ้นเพิ่มมากขึ้น

 

นอกจากกำลังในการซื้อและความต้องการในการซื้อบ้าน อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์คือ พื้นที่ใดที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย พบว่าพื้นที่ชานเมืองได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น โดยพื้นที่ที่น่าจับตามองคือช่วงรังสิต เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ของการเดินทางสู่สนามบินของประเทศอย่างสนามบินดอนเมือง รังสิตยังเป็นพื้นที่ส่วนขยายของรถไฟฟ้าที่คาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้ ไม่เพียงเท่านั้น รังสิตยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อเส้นทางระหว่างในเมืองและนอกเมือง และเป็นสถานที่ตั้งของสถานศึกษาสำคัญของประเทศทั้งมหาวิทยาลัยเอกชน และรัฐบาล

 

สรุปโดยรวมจะเห็นว่าแม้ช่วงครึ่งปีแรกของปี 62 สถานการณ์จะทรงตัว แต่ด้วยมาตรการกระตุ้นการซื้อบ้าน ซึ่งออกโดยรัฐบาล ก็ช่วยทำให้ตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การซื้อบ้าน หรือ ผ่อนบ้าน นั้นคึกคักขึ้นในช่วงปลายปี 62 และคงจะยาวไปถึงต้นปี 63 ทำให้ตั้งปลายปี 62 – ต้นปี 63 ตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะพื้นที่ชานเมืองที่มีการขยายการคมนาคม เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทางและเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆมากขึ้น และถ้าหากว่ารัฐบาลยังมีนโยบายสนับสนุนการซื้อบ้าน หรือออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน ก็น่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มั่นคงมากขึ้นในปี 63

บทความอื่นๆ